5 วิธี เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ด้วยตัวเอง แถมยังได้ราคาประกันภัยในราคาถูก

เปรียบเทียบประกันรถยนต์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์

เป็นเรื่องปกติที่เมื่อถึงเวลาจะทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อน ๆ จะต้องทำการ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ของแต่ละบริษัท ว่าที่ใดจะให้ความคุ้มครอง ราคาเบี้ยประกัน บริการหลังการขาย หรือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้เราได้รับความสะดวกสบายและคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 2+ 3+ 3 เราจำเป็นต้องหาข้อมูลแต่ละบริษัทประกันภัยมา เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ เพื่อที่ได้ทำประกันภัยให้เหมาะสมตรงกับการใช้งานกับเรามากที่สุด (ไม่ใช่การทำประกันรถยนต์เท่านั้น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ก้สามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้)

ก่อนอื่นเพื่อน ๆ ต้องศึกษาเรื่องการ เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ ในส่วนของ ราคาเบี้ยประกันภัยกันก่อน ซึ่งราคาเบี้ยแต่ละที่จะแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ สภาพรถยนต์ ตัวผู้ขับขี่เอง รวมถึงลักษณะการใช้รถ หมายถึงการใช้รถในแต่ละวัน เช่น ใช้บรรทุกของ หรือเป็นการใช้รถยนต์เดินทางทั่วไป

จากนั้นก็มาเปรียบเทียบตารางความคุ้มครอง การขอส่วนลดเบี้ยประกัน ดูบริการหลังการขาย ดังนั้นเพื่อให้ได้ราคาเบี้ยและความคุ้มครองตรงใจที่สุด ให้ทำการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ โดยให้พิจารณาจากหัวข้อดังนี้

เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์

1. เปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัย

ผู้ที่จะซื้อประกันรถยนต์ ควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ อย่างน้อย 3 บริษัทขึ้นไป แนะนำว่าควรเป็นบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคง หากเป็นโบรกเกอร์ประกันภัย เพื่อน ๆ จะสามารถเช็คได้มากกว่า 30 บริษัทเลยด้วยนะ สามารถเช็คได้ผ่านหน้าเว็บเพจของแต่ละบริษัทได้ผ่านช่องทางออนไลน์

2. เปรียบเทียบความตารางความคุ้มครอง

นอกจากเปรียบเทียบเบี้ยประกันแล้ว การดูตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองประกันรถยนต์ก็นับว่าสำคัญมาก ๆ เช่นกัน กรณีนี้ให้เพื่อนดูจากปีของรถ ปริมาณการใช้รถยนต์ พฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ขับขี่รถยนต์ทุกวัน ขับรถเร็วดั่งฟาสต์แอนด์ฟิวเรียส และชอบอะไรที่เคลมประกันได้ทั้งหมด ขอแนะนำให้ทำประกันภัยชั้น 1

หากมีรถหลายคันบางคันใช้บ่อย ไม่บ่อย หรือขับน้อยก็ให้ลองเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์2+ 3+ ดูก็ได้ รับรองว่าความคุ้มครองจะตอบโจทย์การใช้งานอย่างแน่นอน แถมเมื่อลองเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ยังพบว่าถูกกว่าประกันชั้น1 เป็นเท่าตัว ! หากยังไม่รู้ว่าประกันชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง อ่านบทความนี้ได้เลย >>> ประกันชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง ถ้าไม่อ่านอย่าเพิ่งทำประกันภัย !

3. ใช้ส่วนลดประวัติดี

หากปีที่ผ่านมาเพื่อน ๆ ไม่เคลมประกันเลย ก็จะได้รับสิทธิส่วนลดประวัติดี เพิ่มปีละ 10% และสะสมได้สูงสุดถึง 50%

อ่านเพิ่มเติม : อยากทำประกันรถยนต์ราคาถูก ต้องรู้จัก ส่วนลดประวัติดี รับรองว่าช่วยลดค่าเบี้ยชัวร์ 100%

4. ทำประกันแบบระบุผู้ขับขี่

ถ้ามั่นใจว่าใช้รถยนต์เพียงผู้เดียว ก็สามารถทำประกันภัยรถยนต์แบบแจ้งระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ได้เลย เพื่อให้บริษัทประกันรู้ว่ารถยนต์คันนี้จะถูกขับโดยคนที่ระบุชื่อเท่านั้น ทำให้ได้สิทธิส่วนลดในการระบุชื่ออีก 5-20% โดยจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้ขับขี่นั่นเอง

5. ทำประกันรถยนต์แบบมีค่าเสียหายส่วนแรก

ใช้สิทธิซื้อค่าความเสียหายส่วนแรก คือถ้ามีการเคลมเมื่อไหร่ไม่ว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากหรือน้อย ทางผู้เอาประกันจะจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเอง โดยมีให้เลือกว่าจะจ่ายเท่าไหร่ ตั้งแต่ 2,000-5,000 บาท  ส่วนที่เหลือบริษัทประกันภัยจ่ายทั้งหมด

เช่น ถ้าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ต้องจ่ายราคา 15,000 บาท เพื่อน ๆ ซื้อความเสียหายส่วนแรกไว้ที่ 5,000 บาท ก็เท่ากับว่าจะต้องจ่ายค่าเบี้ยให้กับบริษัทประกันภัยแค่ 10,000 บาท ถ้าทั้งปีไม่มีเคลมเลย ก็จะได้ส่วนลดไป 5,000 บาท

ตารางเปรียบเทียบประกันรถยนต์

เราลองมาดูเรื่องของ ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ แต่ละประเภทกัน ลองเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละชั้นดูว่าให้ความคุ้มครองเป็นอย่างไร

ตารางเปรียบเทียบประกันรถยนต์
ตารางเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละชั้น

ตารางเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ชั้น1

ประกันชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ! แถมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็แพงสุดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบมีคู่กรณี หรือ ไม่มีคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น1 ก็ให้ความคุ้มครองทั้งหมด ! โดยความคุ้มครองหลัก ๆ จะมีดังนี้

ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชน + รถหาย + รถไฟไหม้ + รถน้ำท่วม

  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ อนามัยของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอย่างการซ่อมรถให้กับคู่กรณี
  • คุ้มครองรถของเราเมื่อเกิดเหตุรถหาย และไฟไหม้
  • คุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสา ชนประตู ฯลฯ
  • มีความคุ้มครองความเสียหายรถเมื่อเกิดจากเหตุน้ำท่วม

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น2

จะว่าไปแล้ว ประกันชั้น 2 ธรรมดา ถือได้ว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมน้อยมากที่สุด คนไม่ค่อยนิยม เปรียบเทียบประกันรถยนต์ สักเท่าไหร่ เพราะทำแล้วไม่ค่อยคุ้มค่า เนื่องจากไม่คุ้มครองรถยนต์ของเราเลย สรุปความคุ้มครองได้ดังนี้

ซ่อมเขา + ไม่ซ่อมเรา + คุ้มครองรถหาย + รถไฟไหม้

  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองรถยนต์ของเราจากเหตุรถหาย และรถไฟไหม้
  • ไม่คุ้มครองรถยนต์ของเราจากเหตุการชนทุกกรณี

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ 2+

ประกันภัยรถยนต์2+ จะให้ความคุ้มครองครอบคลุมรองลงมาจากประกันชั้น1 แตกต่างกันในเรื่องของวงเงินความคุ้มครอง แต่สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดคือ ประกันรถยนต์2+ จะคุ้มครองการชนเฉพาะการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น ! ถ้าขับรถชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนประตู ชนเสา จะไม่ได้รับความคุ้มครองเลย สรุปความคุ้มครองได้ ดังนี้

ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชนรถ + รถหาย + รถไฟไหม้ + รถน้ำท่วม

  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
  • คุ้มครองการชนแบบ รถชนรถ เท่านั้น
  • คุ้มครองรถเมื่อเสียหายจากเหตุน้ำท่วม (เฉพาะบางแผนความคุ้มครอง)

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น3

ประกันรถยนต์ชั้น3 ถือได้ว่ามีความคุ้มครองน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ โดยจะไม่คุ้มครองรถยนต์ของเรา จะให้ความคุ้มครองซ่อมแค่รถคู่กรณีเท่านั้น ! สรุปความคุ้มครองได้ดังนี้

ซ่อมเขา + ไม่ซ่อมเรา + ไม่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้

  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • ไม่ให้ความคุ้มครองกับรถยนต์ของเราเลยทุกรณี

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส จะมีความคุ้มครองรองลงมาจากประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของเราจากการชน (รถชนรถ) แต่จะไม่คุ้มครองรถยนต์ของเราเมื่อได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้และสูญหาย สรุปความคุ้มครองได้ดังนี้

ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + รถชนรถ + ไม่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ + น้ำท่วม

  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองการชน แบบรถชนรถ เท่านั้น !
  • ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้
  • คุ้มครองรถเมื่อเสียหายจากเหตุน้ำท่วม (เฉพาะบางแผนความคุ้มครอง)

เปรียบเทียบประกันรถยนต์กับบริการหลังการขาย

นอกจากเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยรถยนต์ กับตารางความคุ้มครองแล้ว เรื่องของบริการหลังการขายก็สำคัญมาก ๆ ซึ่งแต่ละบริษัทประกันภัยให้บริการหลังการขายที่ไม่เหมือนกัน เราต้องลองพิจารณาสอบถามจากบริษัทประกันก่อนซื้อประกันภัย เพราะส่วนนี้บริษัทประกันจะไม่ค่อยยอมบอกซะเท่าไหร่ เช่น

  • มีบริการหลังการขายที่คุ้มค่าให้กับเรา เช่น กรณีรถเสียกะทันหัน บริษัทประกันภัยจะต้องมีบริการลากรถฉุกเฉินให้กับเพื่อน ๆ 24 ชั่วโมง
  • มีบริการให้รถใช้ระหว่างซ่อมหรือไม่
  • บริการช่วยเหลืออื่น ๆ 24 ชั่วโมง
  • บริการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัยได้
  • บริการส่งเอกสารฟรี

ถ้าเพื่อน ๆ จะทำประกันภัยรถยนต์เมื่อไหร่ก็ตาม อย่าลืม เปรียบเทียบประกันรถยนต์ กันก่อนนะ อย่าลืมในส่วนของบริษัทประกันภัยหรือโบรกเกอร์ที่จะต้องเลือก โดยจะต้องมีความมั่นคง น่าเชื่อถือได้ มีบริการหลังการขายเป็นเลิศ เรียกประกันแล้วมาภายในไม่เกิน 30 นาที ลองนำหัวข้อดังกล่าวข้างต้นมาพิจารณา และตัดสินใจให้ดีก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์ รับรองเลยว่าถ้าเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์แล้ว ประกันรถยนต์ที่ได้จะราคาถูก แถมความคุ้มครองก็จะคุ้มค่าโดนใจอย่างแน่นอน

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน !
[จำนวนคนโหวต: 0 เฉลี่ย: 0]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
trang cá độ bóng đá uy tín, đăng ký w88, trang chủ w88, nhà cái uy tín nhất, w88 chuẩn nhất, đăng ký 8xbet, link vào fb88, link vào 8xbet, link vào fun88, lô đề trên mạng, đánh đề trên mạng, trang cá cược bóng đá uy tín, nhà cái ok vip, link vào w88