เคลือบแก้วรถยนต์
เคลือบแก้วรถยนต์ ถือว่าเป็นการดูแลรักษาสีรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ๆ ในปัจจุบัน ไม่แพ้กับการเคลือบสีรถยนต์เลยสักนิด แถมยังให้ความเงางาม ฉ่ำวาวชนิดที่ว่าใสจนตาแตกกันเลยทีเดียว Newlorry จึงจะมาแชร์ให้ฟังว่าการเคลือบแก้วรถยนต์ ราคาแพงหรือไม่ เคลือบแก้วรูปแบบไหนดีที่สุด พร้อมวิธีเคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องง้อคาร์แคร์ !
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ว่ามีประโยชน์อย่างไร พร้อมวิธีเคลือบแก้วเองได้ที่นี่เลย >>> ประโยชน์ของ น้ำยาเคลือบแก้ว พร้อมวิธีเคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเอง
เคลือบแก้วรถยนต์ คืออะไร
การเคลือบแก้วรถยนต์ (Glass Coating) เป็นการเคลือบสีรถยนต์ด้วยสารที่มีน้ำยาเคลือบแข็งที่ชื่อว่า Silica ซึ่งระดับความแข็งของมันจะมีระดับแตกต่างกันเริ่มตั้งแต่ 1H-9H
เมื่อสารเคลือบแก้วรถยนต์อย่าง Silica สัมผัสกับอากาศ ก็จะเกิดการแข็งตัวเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ดังนั้น.. เมื่อเราใช้ น้ำยาเคลือบแก้ว มาเคลือบแก้วรถยนต์ สารเหล่านั้นก็จะทำปฏิกิริยาจับตัวกันเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ หุ้มสีรถนั่นเอง ถ้าให้พูดแบบง่าย ๆ ก็จะคล้ายกับการตัวรถยนต์นั้นมีแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่แข็งแกร่งปกคลุมสีรถของเราจากฝุ่น คราบสกปรก รอยขีดข่วนต่าง ๆ นั่นแหละ
อ่านเพิ่มเติม : เคลือบสีรถยนต์ มีประโยชน์อย่างไร ขัดเคลือบสีรถแบบไหนดีที่สุด
เคลือบแก้วรถยนต์ ราคา
ราคา เคลือบแก้วรถยนต์ จะถูกหรือแพง ก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของการเคลือบแก้ว ถ้าเป็นการเคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเอง ราคาก็จะถูกลงมา เพราะไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์หรือเครื่องไม้เครื่องมืออะไรมากมาย แต่ถ้าไปใช้บริการร้านเคลือบแก้วรถยนต์ ก็ต้องยอมรับว่าราคาจะค่อนข้างสูงตามไปด้วย เราลองมาดูรูปแบบของการเคลือบแก้วรถยนต์กันดีกว่า ว่ามีแบบไหนบ้าง
การเคลือบแก้วรถยนต์ มีกี่รูปแบบ
โดยหลัก ๆ แล้ว การเคลือบแก้วรถยนต์ ที่ได้รับความนิยมจากทางฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น ก็จะมี 2 รูปแบบ คือ เคลือบแก้วรถยนต์แบบทา และเคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น การเคลือบแก้วรถยนต์ 2 รูปแบบนี้ แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียยังไงบ้าง ไปดูกัน
1. เคลือบแก้วรถยนต์แบบทา
การเคลือบแก้วรถยนต์แบบทา ถือว่าเป็นการเคลือบแก้วที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างเครื่องพ่นมารองรับ ทำให้ราคา เคลือบแก้วรถยนต์นั้นถูกกว่าการเคลือบแก้วรูปแบบอื่น ๆ
ข้อดี : การเคลือบแก้วรถยนต์แบบระบบทามีราคาถูก ใช้ระยะเวลาการดำเนินการที่สั้นกว่า
ข้อเสีย : มีระยะเวลาการปกป้องสีสั้นกว่าการเคลือบแก้วรถยนต์รูปแบบอื่น ๆ หากช่างที่ทำฝีมือไม่ดี ก็จะทำให้ความหนาแน่นของการเคลือบแก้วรถยนต์ไม่ทั่วถึง
2. เคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น
การเคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น ถือว่าเป็นวิธีเคลือบแก้วที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมากกว่าการเคลือบแก้วรถยนต์รูปแบบอื่น ๆ แถมยังได้รับความนิยมมาก ๆ อีกด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องของราคา ก็ต้องยอมรับว่ามีราคาค่อนข้างสูงพอตัว
การเคลือบแก้วด้วยระบบนี้ น้ำยาเคลือบแก้วที่พ่นออกมาจะระเหยได้เอง ไม่จำเป็นต้องเช็ดออก ให้การปกป้องในระดับที่สูงสุด คือ 9H นับว่าเป็นการเคลือบแก้วรถยนต์ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลรถอย่างพิถีพิถันได้ดี
ข้อดี : ปกป้องสีรถยนต์ได้ดีกว่าการเคลือบแก้วรถยนต์รูปแบบอื่น ๆ แถมยังให้ความเงางาม ฉ่ำวาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย : มีราคาค่อนข้างแพง และจำเป็นต้องทำกับศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานเท่านั้น !
เคลือบแก้วรถยนต์ ดีไหม
ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบแก้วรถยนต์รูปแบบไหนก็ตาม ก็ล้วนแต่มีจุดประสงค์เดียวกันนั่นคือ ช่วยปกป้องสีของรถยนต์ ดังนั้น.. สรุปได้เลยว่าการเคลือบแก้วรถยนต์นั้นดี ดีกว่าการไม่ได้ดูแลสีรถยนต์เลยจริง ๆ
การเคลือบแก้วรถยนต์จะช่วยปกป้องรถยนต์ของเราจากฝุ่น คราบสกปรก รวมถึงรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยถนอมสีของรถยนต์ให้ดูสดใหม่ เหมือนรถป้านแดงที่เพิ่งถอยมาจากโชว์รูมด้วย
เคลือบแก้วรถยนต์ ที่ไหนดี
ถ้ายังลังเลว่าจะ เคลือบแก้วรถยนต์ ที่ไหนดี ก็ขอแนะนำ 2 แบบ คือ
1. ร้านเคลือบแก้วรถยนต์
ทุกวันนี้มีร้านเคลือบแก้วรถยนต์คอยให้บริการอย่างมากมาย มีอุปกรณ์จัดเต็มแบบสุด ๆ รับรองว่าถ้าใครไม่มีเวลาก็ให้นำรถไปเคลือบแก้วกับร้านบริการเหล่านี้ได้เลย แต่ก็ต้องเลือกเคลือบแก้วรถยนต์กับร้านที่ได้มาตรฐานนะ เพราะราคาค่อนข้างสูง จะได้คุ้มค่าหน่อย
2. เคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเอง
การเคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเอง จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีเวลา และไม่ต้องการเคลือบแก้วในราคาแพง ซึ่งสามารถหาซื้อน้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ Wax เคลือบแก้ว จากร้านขายผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ที่สนใจ รถยนต์ของเราก็สวยใส เงางามได้แล้ว
เคลือบแก้วรถยนต์ ดีอย่างไร
- ประโยชน์ของการเคลือบแก้วรถยนต์ ไม่ได้มีดีแค่ช่วยปกป้องสีของรถยนต์เท่านั้น ยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น
- ช่วยให้รถยนต์เงางามอยู่ตลอดเวลา ชุบชีวิตรถเก่าให้ดูเป็นรถใหม่ได้อย่างสบาย ๆ
- ปกป้องรถยนต์จากแสงแดด รังสี UV
- ป้องกันคราบฝุ่น คราบสกปรกต่าง ๆ ที่จะมาจับตัวฝังแน่นบริเวณเนื้อสีรถยนต์
- หลังจากที่ เคลือบแก้วรถยนต์ จะสังเกตเห็นได้ทันทีว่า คราบน้ำ จะไม่จับตัวกันเป็นก้อน หากนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงน้ำที่อยู่บนใบบัวสิคะ
- ช่วยลดการเกิดร่องรอยต่าง ๆ เช่น รอยขีดข่วนรถยนต์ รอยขนแมว รอยเฉี่ยวชน ฯลฯ
การเคลือบแก้วนับว่าเป็นวิธีดูแลสีรถยนต์ที่น่าสนใจเอามาก ๆ หากใครที่ไม่มีเวลาก็แนะนำว่าให้นำรถไป เคลือบแก้วรถยนต์ กับทางร้านบริการจะดีกว่า แต่ถ้าใครอยากเคลือบแก้วรถยนต์ในราคาถูก ก็แนะนำว่าให้ซื้อน้ำยาเคลือบแก้วมาเคลือบรถยนต์ด้วยตัวเอง นอกจากประหยัดตังค์แล้ว ยังช่วยปกป้อง ดูแลสีของรถยนต์ได้ดีอย่างแน่นอน 100%
