เลือกประกันรถยนต์อย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

วิธีซื้อประกันรถยนต์

ปัจจุบันนี้การเดินทางบนท้องถนนล้วนมีความเสี่ยง คุณควรมีประกันรถยนต์พกติดตัวไว้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต เพราะการทำประกันรถยนต์จะเป็นเกราะป้องกันชั้นแรกที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณให้บรรเทาลงได้ และการมีประกันรถยนต์เพื่อคุ้มครองทั้งตัวรถยนต์ของคุณและบุคคลที่สามที่คุณอาจจะทำให้เขาเดือดร้อนจากอุบัติเหตุที่ไม่อาจคาดฝัน จะยิ่งทำให้คุณใช้รถใช้ถนนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแต่ละคนนั้นก็มีทักษะการขับรถที่ไม่เหมือนกัน บางคนขับเร็ว บางคนขับช้า บางคนขับรถหวาดเสียว เราจึงไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าการเดินทางแต่ละครั้งจะเจอคนแบบไหน เหตุการณ์อย่างไร การมีประกันรถยนต์จะทำให้คุณอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท แต่ละแบบเหมาะกับใคร

ในปัจจุบันมีบริษัทประกันรถยนต์ให้บริการมากมาย โดยมีประกันรถยนต์หลากหลายระดับ ตัวอย่างเช่นประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3 และประกันชั้น 3+ เป็นต้น ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์แต่ละแบบมาให้ท่านผู้อ่านทราบรายละเอียดของแต่ละแบบ เพื่อช่วยให้คุณเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งจะช่วยซื้อประกันรถยนต์ในราคาถูก ไม่ต้องเสียเบี้ยประกันรถยนต์ในราคาแพง

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นประกันที่มีราคาสูงที่สุด และมีการคุ้มครองมากที่สุดเช่นกัน ไม่ว่าจะเกิดการสูญหาย หรือการเสียหายกับรถยนต์ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากเจ้าของรถ คนขับรถ หรือจะเป็นบุคคลอื่นที่ทำให้รถเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ หรือกรณีใด ๆ ล้วนแต่อยู่ในประกันทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด

โดยประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นจะเหมาะสมกับบุคคลหลายกลุ่มดังนี้

  • รถยนต์ใหม่ป้ายแดง หรือรถที่มีการใช้งานต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีโอกาสเกิดความเสียหายได้ง่ายกว่ารถเก่า อันเกิดมากจากที่ผู้ขับขี่ยังไม่ชินกับรถยนต์คันใหม่ การควบคุมจึงยังไม่มีประสิทธิภาพ จึงมักจะเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย
  • มือใหม่หัดขับ อันนี้ถือเป็นปัจจัยหลักเลยก็ว่าได้ ด้วยการควบคุมรถยนต์ที่ยังไม่ดี ขับไม่แข็ง มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้สูง โดยไม่ได้ตั้งใจ จึงจำเป็นจะต้องซื้อประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
  • รถยนต์ที่ต้องใช้ประจำ หรือมีการใช้งานที่บ่อยมาก ๆ หรือแทบตลอดเวลา ตัวอย่างเช่นรถรับส่งสินค้า รับส่งผู้โดยสารเป็นต้น ซึ่งเมื่อมีการใช้งานรถยนต์มาก ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็จะมากขึ้นตามไปด้วย จึงเหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากที่สุด

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ (ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส) หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2 พิเศษ ซึ่งจะมีการคุ้มครองลงมาจากประกันรถยนต์ชั้น 1 เล็กน้อย โดยจะแตกต่างกันที่ประกันชั้น 1 นั้นจะครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องยนต์ ที่มีผลต่อการทำงาน และไม่มีผลต่อการทำงานของรถยนต์ อย่างรอยขีดข่วนต่าง ๆ บนตัวรถ เป็นต้น

แต่ประกันรถยนต์ 2+ นั้นจะคุ้มครองในกรณีรถสูญหาย หรือเกิดความเสียหายตัวรถยนต์อย่างไฟไหม้รถเป็นต้น ซึ่งจะไม่ครอบคลุมถึงความเสียหายทั่วไปอย่างรอยขีดข่วนต่าง ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุการเฉี่ยวชนจากพาหนะทางบก

โดยประกันรถยนต์ชั้น 2+ นี้นั้น เหมาะสมกับผู้ที่ใช้งานรถยนต์เป็นประจำ ที่จำเป็นจะต้องลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ อย่างเช่นที่จอดรถอยู่ในจุดที่เสี่ยง ที่ไม่มีรั่ว หรือกำแพงป้องกัน ซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน หรือที่จอดรถริมทางเป็นต้น เนื่องจากราคาเมื่อเทียบกับชั้น 1 ที่มีราคาสูง ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่น่ามองข้าม

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ มีลักษณะคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่จะเป็นการคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้รถยนต์ชนรถเท่านั้น โดยถ้าผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดบางบริษัทจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกจำนวน 2,000 บาทต่อครั้ง แต่บางบริษัทจะเพิ่มไปในเบี้ยประกันแทน

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีรายได้ รวมไปถึงผู้ที่ขับรถยนต์ที่เก่าแล้ว ค่าซ่อมบำรุงตัวรถมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก การทำประกันชั้น 3+ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ในกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้นที่ 3 จะแตกต่างการประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2 ที่มีการคุ้มครองตัวรถยนต์ของตนเอง เป็นการคุ้มครองให้แก่คู่กรณี โดยประกันจะชดใช้ให้ไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อคน หรือแล้วแต่กรมธรรม์ที่ผู้ต้องการเอาประกันเลือก นอกจากนี้ยังไม่ครอบคลุมการสูญหาย ไฟไหม้ รวมถึงอุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ

ต่ออายุประกันรถยนต์อย่างไรให้ประหยัดค่าเบี้ยมากที่สุด

การจะต่ออายุประกันรถยนต์ให้ประหยัดที่สุด ก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี ดังนี้

  1. เลือกซื้อรถที่มีการใช้งานทั่วไป เพราะนอกจากอะไหล่จะหาง่ายแล้ว ราคาไม่แพง เพื่อที่เราจะสามารถเลือกกรมธรรม์รถยนต์ที่ถูกลงมาได้
  2. เปรียบเทียบราคาจากหลากหลายบริษัท แต่ละบริษัทต่างมีบริการ รวมถึงกรมธรรม์ต่าง ๆ แตกต่างกัน เราจึงสามารถเลือกบริษัทที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด
  3. การติดกล้องหน้ารถ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ตั้งกฎเกณฑ์สำหรับผู้ที่ติดกล้องหน้ารถ สามารถลดเบี้ยประกันได้ถึง 5-10% กันเลยทีเดียว
  4. ประวัติการเคลมที่ดี จะแสดงให้บริษัทประกันภัยเห็นว่าท่านมีโอกาสในการเคลมน้อย บริษัทก็จะนำเบี้ยประกันรถยนต์ที่ได้ไปลงทุนต่อได้ดียิ่งขึ้น จึงสามารถพิจารณาลดดอกเบี้ยในปีต่อ ๆ ไปได้
  5. การเลือกอู่ซ่อมรถ การเลือกอู่ซ่อมรถก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการจ่ายเบี้ยประกัน ยิ่งถ้าเลือกซ่อมศูนย์แล้ว นอกจากจะแพงแล้ว ยังต้องรอคิวนานอีกด้วย
  6. ซื้อประกันรถยนต์เสริมจากบริษัทเดิม บางบริษัทจะมีโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยการลดเบี้ยประกันหลักลง เพื่อขายประกันเสริมนั้นเอง
  7. ส่วนลดจากเข็มไมล์ การขับรถที่น้อยครั้ง ส่งผลให้เข็มไมล์ขึ้นน้อย ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราสามารถยื่นลดเบี้ยประกันได้
  8. ลดชั้นประกันรถยนต์ เมื่อรถของคุณผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน การลดชั้นประกันก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยลดค่าให้จ่ายลงได้

ต่ออายุประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ มีการคุ้มครองอะไรบ้าง มาดูกัน

แม้บริษัทประกันภัยไม่บริษัทใด ๆ ที่มีกรมธรรม์ประกันรถยนต์ มักจะมีเงื่อนไขกรมธรรม์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ตามที่ทางบริษัทเห็นว่าสมควร แต่การคุ้มครองทุกชั้นประกันภัยนั้นมีลักษณะที่เหมือนกัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นการคุ้มครองหลัก ๆ ได้ 3 อย่างคือ

ประกันรถยนต์คุ้มครองตัวรถยนต์

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมการประกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวรถยนต์ อุปกรณ์เสริม ทั้งในกรณีที่มี หรือไม่มีคู่กรณี ก็มีการคุ้มครองตามกรมธรรม์อีกด้วย

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมการประกันที่มีคู่กรณีเท่านั้น ถ้าเกิดขับชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือฟุตบาท จะไม่สามารถเคลมประกันได้ทุกกรณี

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ครอบคลุมการประกันที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชนเท่านั้น โดยจะชดเชยให้ทั้งผู้ถือกรมธรรม์ และคู่กรณี โดยไม่เกิดที่กรมธรรม์

ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะเป็นการจ่ายค่าเสียหายให้แก่ตัวรถยนต์ อุปกรณ์เสริม ให้แก่คู่กรณีเท่านั้น

ประกันรถยนต์คุ้มครองตัวบุคคล

ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ของประกันรถยนต์ชั้น 1,ประกันรถยนต์ชั้น 2+,ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ต่างให้การคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้กับบุคคลทั้งหมดที่ได้รับอุบัติเหตุที่บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ทั้งผู้ถือกรมธรรม์และคู่กรณี ตามจำนวนเงินที่กรมธรรม์ระบุ

ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เพลิงไหม้ หรือโจรกรรม

ประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองจากการเกิดภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือถูกขโมย ทางบริษัทประกันรถยนต์จะจ่ายค่าเสียหายตามจริง โดยไม่เกินวงเงินประกันที่ระบุในกรมธรรม์

ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 จะไม่มีการคุ้มครองเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ หรือเกิดการสูญหายเกิดขึ้น

ประกันรถยนต์ มีเงื่อนไขการจ่ายค่าเบี้ยอย่างไร

ในการจ่ายเบี้ยประกันครั้งแรกนั้น เรามักจะต้องไปติดต่อกับทางบริษัท เพื่อพูดคุยข้อสงสัยเกี่ยวกับกรมธรรม์ที่จะทำ จากนั้นจึงมีการจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่นั่นเลย แต่ในปัจจุบันทางบริษัทประกันต่าง ๆ เริ่มที่จะขาย และชำระเบี้ยประกันผ่านทางออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อกรมธรรม์เป็นอย่างมาก

ส่วนเงื่อนไขในการจ่ายเบี้ยประกันนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เมื่อผู้ถือกรมธรรม์ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ จำเป็นที่จะต้องต่อก่อนวันหมดอายุ เพื่อที่ให้กรมธรรม์นั้นคุ้มครองต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ถ้าต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม ถ้าผู้ถือกรมธรรม์นั้นมีประวัติการเคลมที่ดี ยังสามารถขอพิจารณาปรับลดเบี้ยประกันลงได้อีกด้วย

ประกันรถยนต์ เช็คราคาได้ทันที ทำที่ไหนถึงค่าเบี้ยคุ้มสุด

เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และส่วนใหญ่ก็มีประกันรถยนต์เป็นหนึ่งในกรมธรรม์ที่ได้รับความนิยมมากกว่ากรมธรรม์อื่น ๆ เพราะการเดินทางออกจากบ้านไปไหนแต่ละครั้ง เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้น ดังนั้นการมีประกันภัยรถยนต์ไว้ ก็ทำให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง

เนื่องจากมีบริษัทประกันภัยรถยนต์จำนวนมาก การเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยต่าง ๆ ย่อมใช้เวลานาน ดังนั้นทาง SILKSPAN จึงได้รวบรวมข้อมูลจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัท เพื่อให้ผู้ที่กำลังมองหากรมธรรม์ที่เหมาะกับตัวเอง สามารถประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูล ละยังสามารถซื้อประกันผ่านทาง SILKSPAN ได้อีกด้วย

วิธีติดต่อประกันรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ

แม้บริษัทประกันภัยจะมีระเบียบการเคลมประกันที่แตกต่างกัน แต่วิธีการที่ติดต่อประกันรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้นมีลักษณะเดียวกัน นั้นก็คือ

  1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ขั้นแรกจะต้องตั้งสติให้ดี ก่อนจะทำการติดต่อไปที่บริษัทที่ท่านมีกรมธรรม์ประกันรถยนต์ โดยการโทรเข้าศูนย์ หรือสายด่วนของบริษัท แล้วแจ้งหมายเลขกรมธรรม์ของคุณ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถและสถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดเหตุการณ์ จากนั้นทางบริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ
  2. ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง ท่านจำเป็นจะต้องเตรียมเอกสาร หลักฐานกรมธรรม์ต่าง ๆ ให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน เล่มทะเบียนรถ ใบขับขี่ กรมธรรม์
  3. เมื่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาถึง ในกรณีที่มีคู่กรณี ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเรียบเรียงเหตุการณ์ เพื่อดูว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ซึ่งฝ่ายผิดจำเป็นจะต้องจ่ายเงินค่าเสียหายส่วนแรก เพื่อเยียวยาคู่กรณีไปก่อน ตามข้อกำหนดของบริษัทประกันภัย
  4. เมื่อตรวจสอบความเสียหายเสร็จเรียบร้อย ทางบริษัทจะออกใบประเมินความเสียหายให้แก่ผู้มีกรมธรรม์ เพื่อให้นำรถเข้าไปซ่อมในอู่ในเครือ

ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี ให้ได้สิทธิพิเศษสูงสุด

เนื่องจากการแข่งขันกันที่สูง บริษัทประกันภัยทุกแห่งต่างออกแบบกรมธรรม์ พร้อมด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ รวมถึงตอบโจทย์ผู้ให้บริการให้มากที่สุด ดังนั้นผู้ใช้บริการจึงจำเป็นที่จะต้องหาข้อมูลให้รอบคอบ ครบถ้วนเสียก่อน เพื่อนำมาเปรียบเทียบหากรมธรรม์ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ทาง SILKSPAN มองเห็นปัญหาในข้อนี้เป็นอย่างดี จึงได้จัดการรวบรวมกรมธรรม์ต่าง ๆ ของบริษัทชั้นนำ 20 บริษัท ที่ให้บริการประกันรถยนต์ เพื่อให้ง่ายต่อการหาข้อมูล ทั้งยังเปรียบเทียบกรมธรรม์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผู้ให้บริการสามารถซื้อประกันรถยนต์ผ่านทาง SILKSPAN ได้อีกด้วย

นอกจากจะสามารถซื้อประกันผ่านทาง SILKSPAN ได้แล้ว ทางบริษัทได้มีโปรโมชั่น Inter Partner Assistance ซึ่งเป็นบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยทางบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเอง ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 1 หลายบริษัทยังไม่มีให้บริการ ให้อีกด้วย ถือว่าคุ้มสุด ๆ

“สบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปว่าจะลืมต่อประกัน” SILKSPAN ขอแนะนำบริการแจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ผ่าน LINE ไม่มีสายโทรกวนใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครเลยที่นี่https://www.silkspan.com/online/insurance-alert

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน !
[จำนวนคนโหวต: 0 เฉลี่ย: 0]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
trang cá độ bóng đá uy tín, đăng ký w88, trang chủ w88, nhà cái uy tín nhất, w88 chuẩn nhất, đăng ký 8xbet, link vào fb88, đăng nhập 8xbet, đăng ký fun88, lô đề trên mạng, đánh đề trên mạng, trang cá cược bóng đá uy tín, nhà cái ok vip, link vào w88, m88